ทำไมสนามกอล์ฟต้องมี 18 หลุม ?
เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆท่าน ทั้งที่อยู่ในวงการกีฬากอล์ฟ หรือ ท่านที่ยังไม่เคยได้สัมผัสกับกีฬานี้ ส่วนใหญ่แล้วต่างก็รู้ว่า กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ใช้ไม้ยาวๆมีใบเหล็กติดกับก้านสำหรับใช้ตี และ ประกอบไปด้วยจำนวนหลุมที่ต้องเล่นอยู่ที่ 18 หลุม โดยสนามกอล์ฟ 18 หลุม ถือเป็นมาตรฐานที่สำคัญสำหรับสนามกอล์ฟส่วนใหญ่ทั่วโลกในปัจจุบันไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ประเทศไหนก็ตาม แล้วใครเป็นคนคิดค้นว่าสนามกอล์ฟจะต้องมี 18 หลุม ? เราไปหาคำตอบกัน!
.
ยังเป็นที่ถกเถียงกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน ว่าใครกัน เป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ ว่าเกมกอล์ฟ จะต้องเล่น 18 หลุม
ทั้งนี้ มีอยู่ 2 ทฤษฎีหลักๆที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ และ มักจะถูกหยิบยกมาแถลงให้คนที่สงสัยทราบอยู่บ่อยครั้ง
ทฤษฎีที่ 1 (First Theory) : THE Old Course
-เรื่องราวย้อนกลับไปในยุคที่ถือกำเกิดเกมกอล์ฟรูปแบบสมัยนั้น มีที่มาจากในประเทศสกอตแลนด์ช่วงศตวรรษที่ 15 โดยมีสนามกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนั้นคือสนามกอล์ฟ Old Course ที่ St Andrews ในปี 1764 ซึ่งในตอนแรกสนามแห่งนี้มี 12 หลุม ซึ่งเมื่อเล่นครบ 12 หลุมแล้ว นักกอล์ฟจะเล่นเพิ่มอีก 10 หลุมจาก 12 หลุม โดยเล่นแบบไปข้างหน้า 12 หลุม แล้วกลับ 10 หลุม ทำให้ได้เล่น 22 หลุม โดยต่อมานักกอล์ฟก็รวม 4 หลุมให้มาเป็น 2 หลุม นั่นจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของกีฬากอล์ฟ 18 หลุม
ทฤษฎีที่ 2 (Second Theory) : The Legend Of The Irish Whiskey Bottle
-ตามตำนานชาว Irish กล่าวไว้ว่า ให้คุณลองจินตนาการถึงโรงเตี๊ยมสไตล์ไอริชที่แสนจะเก่าซ่อมซ่อ โดยร้านนี้มีชื่อว่า The 19th Hole เป็นที่พบปะสังสรรค์กันในหมู่นักกอล์ฟระแวกนั้น ซึ่งมักจะมากินดื่มวิสกี้กันหลังจากสนุกสนามกับเกมกอล์ฟ ตำนานกล่าวต่อว่า เวลาพวกเขาออกไปเล่นเกมกอล์ฟก็มักจะนำขวดวิสกี้พร้อมกับแก้วพกติดมือไปด้วย พวกเขามีการวางเดิมพันและดื่มกับหมู่ก๊วนในขณะเล่นกีฬา เมื่อตีไปจนถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็ค้นพบว่าขวดเหล้าวิสกี้นั้นหมดเสียแล้ว เป็นเวลาเดียวกันกับที่มันจบลงในแก้วช๊อตที่ 18 นั่นจึงทำให้พวกเขาตั้งกฎเกมกีฬากอล์ฟใหม่โดยกำหนดให้มี 18 หลุม เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามภรรยาได้ว่า ไปเล่นกอล์ฟกลับกี่โมง! อ๋อเหล้าหมดขวดก็กลับจ้ะ! [ อันนี้ผู้เขียนหยอกเล่น :)] อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ก็ยังเป็นเพียงตำนานเมืองที่ถูกเล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น
.
เทรนด์การเล่นกีฬากอล์ฟในไทยปัจจุบัน เป็นอย่างไร?
-อ้างอิงจากเว็บไซต์ของ ผู้จัดการรายสัปดาห์กล่าวว่า เทรนด์การเล่นกีฬากอล์ฟ ณ ปัจจุบันในประเทศไทย ถือว่ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยเรามีนักกอล์ฟสาวชาวไทยหลายท่านคว้ารางวัลระดับโลกอย่างมากมาย ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนโยบายผลักดัน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) โดยมีสายการบินเจจู แอร์ (JEJU AIR) บินตรงจากสนามบินอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเดินทางเข้ามาพักผ่อน และ ออกรอบที่สนามกอล์ฟในหลายๆแห่งของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวธรรมดาถึง 2.5 เท่า โดยเฉลี่ยจะอยู่ในไทย 15 วัน ซึ่งจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวเชิงกีฬาโตมากยิ่งขึ้น
เพื่อที่จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่ากีฬากอล์ฟนั้นเติบโตมากขึ้นแค่ไหน ขออนุญาตหยิบยกจากกรณีสนามกอล์ฟ 18 หลุม แห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ผู้ซึ่งให้ทางบริษัทสราญรมย์ เอสเตท แอนด์โฮเต็ล เป็นผู้ดูแลในด้านการหา partner ผู้มีประสบการณ์ สำหรับการ Joint venture เพื่อขยายพื้นที่สำหรับรองรับการเพิ่มฐานลูกค้าให้กับสนามกอล์ฟ โดยสนามกอล์ฟแห่งนี้ เพิ่งเปิดทำการเมื่อปลายปี 2566 โดยนับตั้งแต่เปิดกิจการมา สนามกอล์ฟแห่งนี้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ เหตุเพราะนโยบายการผลักดันจากภาครัฐ จึงทำให้ทัวร์การตีกอล์ฟของชาวเกาหลีมีการจองเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมถึงนักกีฬาเยาวชนจากหลายๆชาติ เช่น อินโดนิเซีย มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ก็บินเข้ามาเก็บตัวด้วยเช่นกัน
-อีกหนึ่งสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเหล่า ดารา Celebrity ของเมืองไทยปัจจุบันนี้ ก็เริ่มหันกลับมาให้ความสนใจในเกมกีฬากอล์ฟอย่างเป็นวงกว้างเช่นกัน จะเห็นได้ผ่านรายการ “เดี๋ยวตีให้ตายเลย” จากช่อง youtube ของ คุณอาร์ต มารุต ที่เหล่าบรรดาแบรนด์กีฬากอล์ฟชั้นนำระดับโลก ทำการตลาดโดยการให้ Sponsor ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์กอล์ฟ ชุดเหล็ก หรือเสื้อผ้า เพื่อเป็นการโฆษณาผ่านผู้มีอิทธิพลทาง social media ทั้งหลาย
.
ตลอดจนถึงบรรทัดสุดท้าย ผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่า การเติบโตในอุตสาหกรรมกีฬากอล์ฟนั้น มีแนวโน้มที่เติบโตเพิ่มขึ้น และ จะยังคงเติบโตขึ้นไปอีกในอนาคต ทั้งนี้ทางบริษัทสราญรมย์ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลงทุนในสนามกอล์ฟ สามารถติดต่อบุคลากรผ่านช่องทางแชท Facebook messenger หรือ ช่องทาง Line ID : saranromping (คุณปิง) 085-552-6556 หรือ sirpang (คุณปัง) 095-639-0259 ได้เช่นเดียวกัน ขอบคุณค่าาา